วัคซีนป้องกันงูสวัด ทางเลือกลดความเสี่ยงปวดเรื้อรัง


 

อย่าปล่อยให้ "งูสวัด" ทำลายคุณภาพชีวิต! วัคซีนทางเลือกเพื่อลดความเสี่ยงปวดเรื้อรัง

โรคงูสวัด (Shingles) เป็นภาวะที่หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่ความจริงแล้ว งูสวัดเกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดเดียวกับโรคอีสุกอีใส (Varicella Zoster Virus) ที่เคยเข้าสู่ร่างกายเราเมื่อยังเด็ก ซึ่งเชื้อไวรัสนี้ไม่ได้หายไปไหน แต่ซ่อนตัวอยู่ในปมประสาท เมื่อไหร่ที่ร่างกายเราอ่อนแอลงจากความชรา ความเครียด หรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง เชื้อก็จะฉวยโอกาสกลับมาก่อโรคอีกครั้ง

อาการของงูสวัดคือผื่นตุ่มน้ำใสที่มักขึ้นเป็นแนวยาวตามเส้นประสาท สร้างความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ปวดแสบปวดร้อน คล้ายถูกไฟช็อต และที่น่ากังวลที่สุดคือภาวะแทรกซ้อนที่เรียกว่า อาการปวดเรื้อรังหลังเป็นงูสวัด (Postherpetic Neuralgia หรือ PHN) ซึ่งเป็นอาการปวดตามแนวเส้นประสาทที่อาจคงอยู่ยาวนานเป็นเดือน เป็นปี หรือเป็นตลอดชีวิต ทำลายคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก

 


 

ใครบ้างที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงโรคงูสวัด?

แม้โรคงูสวัดจะเกิดได้ในทุกช่วงวัยที่เคยเป็นอีสุกอีใส แต่ผู้ที่ควรระมัดระวังและพิจารณาการฉีดวัคซีนเป็นพิเศษ ได้แก่:

- ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ภูมิคุ้มกันจะลดลงตามธรรมชาติ ทำให้เชื้อไวรัสที่ซ่อนอยู่ถูกกระตุ้นให้กลับมาก่อโรคได้ง่ายขึ้น

ผู้ที่เคยติดเชื้ออีสุกอีใสมาก่อน หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ

- ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เครียด พักผ่อนน้อย หรือมีโรคประจำตัวเรื้อรัง

 


 

ทำไมวัคซีนป้องกันงูสวัดจึงสำคัญ?

ปัจจุบัน วัคซีนป้องกันงูสวัดชนิดใหม่ ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันโรคและภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง ประโยชน์หลัก ๆ คือ:

  1. ป้องกันโรคงูสวัดได้มากกว่า 90%: ลดโอกาสการเกิดโรคได้อย่างมีนัยสำคัญ

  2. ลดความเสี่ยงปวดเรื้อรัง: มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันภาวะปวดเส้นประสาทเรื้อรัง (PHN) ซึ่งเป็นภาวะที่ทรมานที่สุดจากโรคงูสวัด

  3. ลดความรุนแรงของโรค: หากเป็นงูสวัดก็จะมีอาการไม่รุนแรงเท่าคนที่ไม่เคยได้รับวัคซีน

  4. เป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพระยะยาว: การป้องกันโรคงูสวัดช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีในระยะยาว และไม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

การฉีดวัคซีนป้องกันโรคงูสวัดจึงเป็นการสร้างเกราะป้องกันที่มีประสิทธิภาพที่สุด เพื่อให้คุณและคนที่คุณรักได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ปราศจากความเจ็บปวดของโรคงูสวัด

 


 

แนะนำให้รับวัคซีนป้องกันโรคงูสวัด

การเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันงูสวัดตามคำแนะนำของแพทย์เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการดูแลสุขภาพของคุณ วัคซีนชนิดใหม่แนะนำให้ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 2-6 เดือน โดยสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสุขภาพของคุณได้ทันที

อย่าลังเลที่จะดูแลตัวเองก่อนที่ความเจ็บปวดจะมาเยือน! ติดต่อสอบถามและเข้ารับบริการวัคซีนได้ที่คลินิกวัคซีนของ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กรุงเทพฯ

 

 

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

 

 

ติดต่อเรา

      

www.mfuhospitalbkk.com

โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กรุงเทพมหานคร
38/11-13 อาคารอโศกเพลส ถนนอโศก สุขุมวิท 21
แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา
กรุงเทพฯ 10110 โทร.02-664-4360

 

Visitors: 349,443